- ชาหรืออ่อนแรงแขนขา หรือใบหน้าข้างใดข้่างหนึ่ง
- พูดลำบาก พูดไม่ได้ หรือไม่เข้าใจคำพูด ทันที
- มีอาการมึนงง เดินไม่ได้มั่นคงเสียศูนย์
- ตามัว หรือการมองเห็นลดลงข้างใดข้างหนึ่ง ทันที
- อาการปวดศรีษะอย่างรุนแรงไม่มีสาเหตุ ทันที
ปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดในสมอง
ความดันโลหิตสูง เป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับหสนึ่งซึ่งการควบคุม ความ ดันและการกินขาสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้
โรคอ้วน น้ำหนักตัวที่มากเกินไปจะเพ่ิมความเสี่ยงไม่เฉพาะ โรค หลอด เลือดตีบทั่ว
โรคเบาหวาน ทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดตีบทั่วร่างกายการควบคุม น้ำตาลและการออกกำลังกายอยู่เสมอจะสามารถลดความเสี่ยงได้
การสูบบุหรี่ เพิ่มโอกาสเป็นได้อีก 30-40%
ภาวะไขมันในหลอดเลือดสูง
อาการความรุนแรง
อาการน้อย อาจมีเพียงพูดไม่ชัด มุมปากตกแขนขาไม่มีเรียวแรงแต่พอเดินได้ มักไม่ปวดศรีษะ ถ้าได้รับการรักษาภายใน 2-4 สัปดาห์ มีโอกาสหายเป็นปกติในบางราย
อาการปานกลาง อาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อ่อนแรงมากขึ้น ขยับแขนขาไม่ได้ หรือพูดไม่ได้เลย ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เพราะอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ภายใน 3-5 วัน และต้องทำกายภาพบำบัดต่อ
อาการหนัก ส่วนใหญ่ไม่รู้สึกตัวตั้งแต่ต้น หรือซึมลงอย่างรวดเร็วมากใน 24 ชั่วโมง มักเป็นในผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัวหลายอย่าง การรักษาจะต้องดูแลในหออภิบาลผู้ป่วยหนัก ส่วนใหญ่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และอาจต้องเข้ารับการผ่าตัด ท้ายสุดผู้ป่วยมักต้องอยู่บน ล้อเข็น หรือบนเตียง
การตรวจวินิจฉัย
การวินิจฉัยอาศัยประวัติและการตรวจร่างกายเป็นสำคัญ การตรวจพิเศษอื่นๆ ได้แก่
- การเอ็กเรย์ด้วยความพิวเตอร์สมอง จะช่วยให้การวินิจฉัยได้แม่นยำ และทำได้รวดเร็ว
- การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ MRI แม่นยำกว่าเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ แต่ใช้เวลานานกว่า และราคาสูง จึงมักใช้ในรายที่จำเป็นเท่านั้น
- การตรวจหาสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคอื่นๆ เช่น ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ในกรณีที่สงสัยว่ามีโรคหัวใจเป็นสาเหตุ
วิธีการรักษาโรคหลอดเลือดสมอง
ผู้ป่วยมีอาการจะต้องรีบไปโรงพยาบาลโดยด่วน หากมาพบแพทย์เร็วภายใน 3-6 ชั่งโมง จะได้รับผลดีในการรักษา ดังนั้น หากมีสัญญาณอันตรายต่างๆ ที่สงสัยว่าน่าจะเกิดจากหลอดเลือดสอง ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
การป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และ้เพียงพอ ไม่ควรหักโหม
- การควบคุมน้ำหนัก อย่าให้อ้วนเกินไป ลดอาหารที่มีไขมันสูง
- งดสูบบุหรี่
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์
- ควรผ่อนคลาย ลดความตึงเครียด และพักผ่อนให้เพียงพอ
- ควรตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยง เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง
- เมื่อมีอาการเตือน หรือสัญญาณอันตรายอย่านิ่งนอนใจ รีบปรึกษาแพทย์โดยด่วน